THE HISTORY OF GOLF

THE HISTORY OF GOLF เปิดประวัติศาสตร์กอ์ลฟ

             THE HISTORY OF GOLF สวัสดีค่ะเพื่อนๆนักอ่านทุกคน วันนี้แอดมินก็มีสาระดีๆมาฝากเพื่อนๆนักอ่านกันอีกแล้ว เกี่ยวกับกีฬากอล์ฟนั่นเอง เพื่อนๆเคยสงสัยไหมคะว่ากีฬากอล์ฟคืออะไร เล่นยังไง เกิดขึ้นมาได้อย่างไร แอดมินหาคำตอบให้เพื่อนๆค่า ถ้าพร้อมแล้ว เราไปดูกันเลย

             THE HISTORY OF GOLF กีฬากอล์ฟ เป็นกีฬาที่มีประวัติศาสตร์ยาวนานมาก ย้อนกลับไปเมื่อ สองพันปีที่แล้ว ชาวโรมันเล่นเกมส์ที่ใช้ไม้ปลายโค้งงอตีลูกกลมๆ

และเรียกเกมส์นี้ว่า “ Paganica” และที่ประเทศฮอลแลนด์ในช่วงศตวรรษที่13 ก็มีการละเล่นที่คล้ายกอล์ฟเช่นด้วยกัน แต่เรียกว่า “Kolf” นิยมในหมู่นักเดินเรือ และลูกกอล์ฟขนนก ยี่ห้อFeathery ผลิตในประเทศฮอลแลนด์

o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o

จึงสามารถใช้เป็นหลักฐานได้ว่ากีฬากอล์ฟเกิดที่ประเทศฮอลแลนด์ได้ และยังมีประเทศอังกฤษที่กษัตริย์และขุนนางระดับสูงจะเล่นกอล์ฟกัน

โดยมีสนามกอล์ฟในประเทศอังกฤษ 12 สนาม และขยับเป็น 50 สนามในปี ค.ศ. 1887 และเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วในปี ค.ศ. 1914 เป็น 1,000 สนาม

              กอล์ฟ เป็นกีฬาประเภทบอลและเล่นในที่แจ้ง โดยใช้ไม้ตีลูกบอลให้ลงหลุม โดยกีฬากอล์ฟจะมีกฏอยู่ว่า “กีฬากอล์ฟประกอบด้วยการเล่นลูกใดลูกหนึ่งด้วยไม้กอล์ฟจากแท่นตั้งทีไปลงหลุมโดยการสโตรคหนึ่งครั้งหรือหลายครั้งต่อเนื่องกันตามกฎข้อบังคับ” 

o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o

o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o

              โดยวิธีการเล่นนั้น จะมีอยู่สองแบบคือ 

1.สโตรคเพลย์ คือ ระบบที่ใช้ในการแข่งขันเป็นส่วนใหญ่ โดยผู้เล่นแต่ละคนหรือแต่ละทีม จะนับคะแนนการตีของทุกหลุม เมื่อรวมเป็นคะแนนสรุปฝ่ายไหนจำนวนครั้งน้อยที่สุดจะเป็นผู้ชนะ

2.แมตช์เพลย์ คือ ผู้เล่นสองคนหรือสองทีม จะแข่งกันในแต่ละหลุม ฝ่ายไหนใช้สโตรคน้อยกว่าในแต่ละหลุม จะชนะ หรือถ้าใช้สโตรคเท่ากันจะนับเป็นเสมอกัน ฝ่ายที่ชนะจำนวนหลุมมากกว่า

              เป็นยังไงบ้างคะ กับสาระดีๆที่แอดมินได้นำมาฝากในวันนี้ ถ้าเพื่อนๆคนไหนที่สนใจจะเล่นกีฬากอล์ฟก็ลองเข้ามาอ่านบทความนี้ดู เผื่อจะมีประโยชน์กับเพื่อนๆ สำหรับครั้งหน้าแอดมินจะนำเรื่องอะไรมาฝากเพื่อนๆอีก ต้องรอติดตามกันนะค้า

o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o

About the author

Sophie Obrien

View all posts